*** “นางเอกเดียวดายในโรงละคร” ***
วันนี้เรามองไปรอบๆกายเรา เท่าที่เรายังมองเห็น เรามีใครบ้าง พอเป็นเพื่อนเรา
ที่สำคัญ เราเองก็ต้องเป็นเพื่อนเขาด้วย อย่างที่เราต้องการให้เขาเป็น อย่าเอาแต่เราฝ่ายเดียวที่ต้องการ
บางคนประกาศลงหน้าเฟสว่า ขอลบเพื่อนที่ไม่มีการเคลื่อนไหวต่อเขา เป็นเพื่อนกันทำไม..
แต่เราลืมไป ว่าเราเองก็ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวต่อพวกเขาเหมือนกัน เราเอาแต่ได้น่ะ..
บางคนยามถูกใจ อะไรก็ได้อะไรก็ดี แต่พอยามไม่ถูกใจ หรือปกปิดความผิดตน ก็โทษนั่นโทษนี่ เพื่อให้ตนเองดูดี
เป็นผู้มีคุณธรรมและชักชวนให้ใครๆเข้าพวกด้วย ด้วยการเพ่งโทษและชี้โพรงให้ใครๆเห็นความระยำโดยไม่ถามถึงเหตุ..
บางคนเอาเปรียบผู้อื่นเป็นสันดานตน ตนเองก็ไม่รู้ตัวว่าตนกำลังเอาเปรียบผู้อื่น
พอโดนผู้อื่นเอาคืนบ้าง ก็รู้สึกจะเป็นจะตาย ลืมไปว่า ยามกลับกันคนอื่นเขาก็แทบเป็นแทบตายในสิ่งที่ตนกระทำเหมือนกัน
ชีวิตนั้นทุกคนรู้ว่าอยู่ไม่นาน แต่ทุกคนไม่รู้ว่าการอยู่ไม่นานนั้น เราจะบริหารอย่างไรดีกับชีวิตที่หดหายไปในทุกๆวัน
เตรียมใจไว้บ้าง..เราต้องจากพรากกันแน่
เตรียมใจไว้บ้าง..ไม่มีอะไรได้ดังใจแน่
เตรียมใจไว้บ้าง..ไม่มีอะไรแน่นอนแน่
โลกเรามันเป็นเช่นนี้ เรายอมรับมันได้ไหม..
หากรับได้ และเข้าใจมัน โลกทั้งใบก็แค่ขนมปังทาแยมในมือ จะเคี้ยวเล่นหรือขว้างทิ้ง มันก็ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อใจเจ้าของนัก
เรามองโลกให้เป็น อย่าเอาเราเข้าไปเป็นเจ้าของในทุกๆเรื่องของโลก
ไม่นานๆ..โรงละครแห่งโลกที่เรากำลังแสดงมันก็ต้องปิดฉากลง
ร่ำลานักแสดงและมองดูพวกเขาที่กำลังแสดงอยู่ให้ดี
บางบทที่เขาแสดงอาจไม่ถูกใจเรา พอๆกับบางบทที่เราแสดง ก็ไม่ถูกใจเขาเช่นกัน
ผนังติดภาพสวยงาม มันอาจเป็นแค่พลาสเตอร์สีสวยแปะปิดรอยตำหนิของผนัง ที่โดนตะปูเจาะ
ทุกคนต่างมีตำหนิทั้งนั้น เหมือนผนังที่มีรอยตะปูแล้วใช้ภาพแปะ
วันนี้บอกเมียไปตรงๆเหอะ ว่าเราโดนสาวสวยหลอกเราไปรังแก แต่เราสู้และเจาะผนังเธอไปเรียบร้อย เราไม่ขาดทุนและเสียเปรียบ
มองคนรอบๆตัวให้ดี วันนี้เขายังอยู่หรือลาจากเราไป
ในวันที่ไม่มีใคร เราอาจต้องทำใจและรูดม่านปิดฉากโรงละครแต่เพียงลำพัง..
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 18 พฤษภาคม 2563
โดยพระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง